2024.05.09การทำงานบริษัทญี่ปุ่น

สวัสดิการในบริษัทญี่ปุ่น

 

สำหรับผู้หางานแล้ว นอกจากรายละเอียดเงินเดือนและตำแหน่งงาน อีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการพิจารณาเข้าทำงานในบริษัท นั่นก็คือสวัสดิการนั่นเองค่ะ

หลาย ๆ ท่านอาจจะทราบกันดีว่าในประเทศไทยมีสวัสดิการที่มีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย เช่น ประกันสังคม (SSO), วันลาคลอด, วันหยุดพักผ่อนที่ยังได้รับค่าจ้าง, และวันลาป่วยตามที่กฎหมายกำหนด แต่ทั้งนี้ ก็ยังมีสวัสดิการอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกมาก บทความวันนี้เรามาทำความรู้จักกับสวัสดิการที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทยกันค่ะ

■ ประกันสุขภาพ:

นอกเหนือจากประกันสังคมแล้ว ประกันสุขภาพก็เป็นสวัสดิการที่บริษัทนิยมทำให้กับพนักงานในองค์กรเพิ่มเติม เพื่อช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลยามฉุกเฉิน ทั้งในกรณีเจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุ โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ ประกันสุขภาพกลุ่ม และประกันสุขภาพส่วนบุคคล

■ การตรวจสุขภาพประจำปี:

แม้กฎหมายในประเทศไทยจะไม่ได้กำหนดให้มีการตรวจสุขภาพประจำปี แต่บริษัทญี่ปุ่นมักจะเพิ่มสิ่งนี้เป็นสวัสดิการให้แก่พนักงานเพิ่มเติม เช่น โปรแกรมการเอ็กซเรย์ทรวงอก การตรวจเลือด การตรวจปัสสาวะ หรือการรับคำปรึกษาจากแพทย์ เป็นต้น

■ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ:

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นกองทุนที่สร้างขึ้นด้วยความสมัครใจระหว่างบริษัทและพนักงาน เพื่อเป็นเงินออมในกรณีที่พนักงานลาออก เกษียณอายุ เจ็บป่วย หรือเสียชีวิต คล้ายกับระบบเงินบำนาญในประเทศญี่ปุ่น

■ ค่าเดินทาง:

เป็นอีกหนึ่งสวัสดิการที่มีความสำคัญมาก ไม่เพียงแต่บริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทยเท่านั้น แต่รวมไปถึงบริษัทในประเทศญี่ปุ่นที่ส่วนใหญ่เกือบทุกบริษัทจะมีค่าเดินทางให้กับพนักงานทุกคนอยู่แล้ว เนื่องจากพนักงานหลายคนอาจจะไม่มีรถยนต์ หรือจักรยานยนต์ที่จะสามารถนำมาใช้ในการขับขี่ไปทำงานได้ ดังนั้น การที่บริษัทให้ความช่วยเหลือในด้านนี้จึงเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการที่พนักงานจะตัดสินใจตอบรับเข้าทำงานในบริษัท

โดยบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย อาจจะมีบริการรถรับส่งให้พนักงาน ส่วนในกรณีที่ไม่มีบริการรถรับส่ง ก็จะมีค่าเดินทางรายเดือนให้ ซึ่งอาจจะเป็นค่าเดินทางตามที่กำหนดไว้เท่า ๆ กันทั้งบริษัท หรือคิดตามระยะทางจริง

■ ค่าเช่าบ้าน/ค่าที่พัก:

ในบางบริษัทอาจจะมีค่าเช่าบ้านให้พนักงาน หรือมีที่พักฟรีให้แก่พนักงาน เป็นสวัสดิการที่พบได้มากในกลุ่มอุตสาหกรรมโรงงานและการก่อสร้าง

■ เบี้ยขยัน:

สำหรับพนักงานที่ไม่มีการขาดงาน ลาป่วย หรือมาสาย บางบริษัทอาจมีค่าเบี้ยขยันให้แก่พนักงาน ซึ่งอาจจะเป็นเบี้ยขยันที่กำหนดไว้เท่ากันทุกเดือน หรือเพิ่มขึ้นไปขั้นบันไดในเดือนต่อ ๆ ไป โดยอิงตามเงื่อนไขของแต่ละบริษัท

■ โทรศัพท์มือถือ/ค่าโทรศัพท์:

สำหรับพนักงานที่ใช้โทรศัพท์เพื่อวัตถุประสงค์ในการทำงาน บางบริษัทจะมีโทรศัพท์มือถือหรือค่าโทรศัพท์ให้ โดยอาจจะเป็นการให้ SIM อย่างเดียว, การให้ทั้งโทรศัพท์มือถือและ SIM, หรือการให้ค่าโทรศัพท์รายเดือนสำหรับพนักงานที่ใช้โทรศัพท์มือถือของตนเองในการทำงาน

■ การท่องเที่ยวประจำปี:

สิ่งนี้เป็นสวัสดิการที่เปรียบเสมือนรางวัลให้กับพนักงานที่จะได้ไปเที่ยวพักผ่อนหลังจากทำงานมาอย่างเต็มที่ตลอดทั้งปี อีกทั้งยังเป็นกิจกรรมที่ผู้บริหารมักจะมองว่าช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์และความสามัคคีของพนักงานในบริษัทอีกด้วย

■ Incentive/ค่าจูงใจ:

เป็นสวัสดิการที่อิงจากผลงานการขายของพนักงานขาย และจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละบริษัท บางบริษัทอาจกำหนดฐานเงินเดือนให้ต่ำและเสนอค่า Incentive ให้สูง ในขณะที่บางบริษัทอาจให้ความสำคัญกับฐานเงินเดือนมากกว่า

■ ค่าน้ำมันและค่าบำรุงรักษารถ:

เป็นสวัสดิการเสริมสำหรับพนักงานที่ใช้รถส่วนตัวในการทำงาน ค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันจะถูกคิดโดยอิงตามระยะทางจริง

■ ค่าภาษา:

หลาย ๆ บริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย จะมีค่าสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นหรือภาษาอังกฤษให้กับพนักงานชาวไทย เพื่อสร้างกำลังใจให้กับพนักงาน โดยค่าภาษาจะได้รับตามเกณฑ์ที่แต่ละบริษัทกำหนดไว้ เช่น JLPT N3, N2, หรือ N1 หรือ TOEIC 700, 800 หรือ 900 คะแนน

(ข้อมูลจาก: Personnel Consultant, Southeastlife, dashmv)