สวัสดิการสุดเจ๋งของบริษัทชั้นนำที่ดึงดูดคนหางานรุ่นใหม่

ในยุคปัจจุบัน เรื่องของสวัสดิการบริษัท เป็นสิ่งที่คนทำงานให้ความสำคัญอย่างยิ่ง  HR ในหลายบริษัทจึงมักนำ “สวัสดิการบริษัท” มาเป็นกลยุทธ์สำคัญเพื่อจูงใจให้กลุ่มคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมงานด้วย โดยอาจจะแจ้งรายละเอียดสวัสดิการต่าง ๆ ที่น่าจะตอบโจทย์พวกเขาตั้งแต่โพสต์รับสมัครงาน หรือรายละเอียดบนบอร์ดประกาศรับสมัครงาน 

หลายบริษัทพยายามแข่งขันกันเพื่อดึงตัวพนักงาน โดยการให้สวัสดิการที่มีเอกลักษณ์ เพื่อเพิ่มขวัญกำลังใจในการทำงาน สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดึงดูดผู้มีความสามารถ และทำให้สำนักงานเป็นสถานที่ที่น่าทำงาน  การสำรวจของบริษัทที่ปรึกษาต่าง ๆ เช่น วิลลิส ทาวเวอร์ วัตสัน เผยว่า พนักงานร้อยละ 78 มีแนวโน้มที่จะอยู่กับบริษัทมากขึ้นหากสวัสดิการของบริษัทดีตรงใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนรุ่นใหม่ สวัสดิการบริษัทที่ดี ที่ตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของเขาได้ คือ ปัจจัยอันดับต้น ๆ ที่ทำให้เขาอยากร่วมงานกับบริษัท 

อย่างไรก็ตาม สวัสดิการที่เขาตามหา ไม่ใช่เพียงสวัสดิการพื้นฐานทั่วไปอย่างที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลหรือ HR ของหลาย ๆ บริษัทคุ้นเคย แล้วสวัสดิการที่คนรุ่นใหม่มองหาและต้องการ มีอะไรบ้าง?

ตัวอย่าง สวัสดิการของบริษัทชั้นนำที่ดึงดูดคนรุ่นใหม่

Google  มีสวัสดิการสุดว้าวที่ให้มากกว่าและไม่เหมือนใครในแบบของตัวเองตั้งแต่ มีรถรับ-ส่งพนักงานจากย่านที่อยู่อาศัยพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในการทำงานและประชุม อาหารฟรี 3 มื้อ นอกจากนั้นยังมี แพทย์ประจำบริษัท ช่างตัดผม ห้องนอนพัก อุปกรณ์/โต๊ะทำงานสุดไฮเทค

SCG Flexible Benefits คือ ให้พนักงานทุกคนสามารถ จัดสรรงบสวัสดิการตามความต้องการของตนเองได้ เช่น พนักงาน Gen Z ที่มี Passion ในการท่องเที่ยว ก็สามารถแบ่งงบจากส่วนที่เกี่ยวกับสุขภาพไปใช้ในสวัสดิการที่ซัพพอร์ตการท่องเที่ยวแทนได้ และอีกสวัสดิการ Health Care & Health Club คือ พนักงานสามารถใช้ facilities ที่บริษัทมอบให้ ทั้ง fitness center ที่สามารถตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้อย่างดี นอกจากนี้ยังมี ทุนการศึกษาไป Take Course กับ Top 10 University ระดับโลกทุกปี

Agoda การทำงานแบบยืดหยุ่นแบบสุด ๆ เพราะพนักงานสามารถทำงานที่บ้านได้ 3 วันต่อสัปดาห์ ที่ไหนก็ได้ 30 วันต่อปี และมีวันหยุดเริ่มต้นมากถึง 15 วันต่อปี พร้อมส่วนลดที่พักมากมายเมื่อเข้าพักในโรงแรมที่เป็นพาร์ตเนอร์

ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย การทำงานแบบยืดหยุ่น ด้วยโมเดลการทำงานแบบ 2-2-1 คือ  2 วันทำงานที่สำนักงาน 2 วันทำงานที่ไหนก็ได้ และอีก 1 วันสำหรับการติดต่อพูดคุย สื่อสาร และการเรียนรู้ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับพักผ่อนให้ได้ผ่อนคลายทุกช่วงเวลาที่ต้องการ ทั้งคาเฟ่ และห้องออกกำลังกาย 

SC Asset ดึงความสนใจจากคนรุ่นใหม่ไม่ว่าจะเป็นสวัสดิการ Workcation เปิดโอกาสให้พนักงานบินไปนั่งทำงานที่ไหนก็ได้ทั่วโลกเป็นเวลา 10 วัน สวัสดิการ Flexi-Benefits งบ 10,000 บาท นำไปใช้ดูแลตัวเองตามไลฟ์สไตล์ที่ชอบ 

แสนสิริ  สวัสดิการฟิตเนสที่มี Personal Trainer พร้อมอุปกรณ์ระดับโลกและสามารถเข้าใช้บริการได้ทุกเวลา นักกายภาพบำบัดประจำออฟฟิศไว้ดูแลพนักงานเพื่อให้ห่างไกลออฟฟิศซินโดรม วันลาเพื่อดูแลบุพการี วันลาแต่งงานสำหรับ LGBTQ+ วันลาฮีลใจสัตว์เลี้ยงจากไป สวัสดิการรักษาด้านสุขภาพจิต และที่พีคที่สุดคือสามารถพาสัตว์เลี้ยงมาทำงานได้ด้วย

Bitkub สวัสดิการเจ๋ง ๆ อย่างการลาผ่าตัดแปลงเพศ การลาหยุดที่เกี่ยวกับความเห็นอกเห็นใจ Compassionate Leave จะอกหัก หรือสูญเสียสัตว์อันเป็นที่รักก็ลาได้ นอกจากนี้ยังมี Coffee Chat ที่เปิดโอกาสให้พนักงานสามารถพูดคุย เปิดใจกับบริหารได้โดยตรง พร้อมซัพพอร์ตสุขภาพจิตของพนักงานด้วย Bitkub Mental Clinic โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญคอยรับฟังและช่วยแก้ปัญหาสุขภาพจิตให้กับพนักงาน

Netflix  มีสวัสดิการดีเยี่ยมและเป็นต้นแบบที่หลายองค์กรนำไปปรับใช้ โดยเฉพาะเรื่อง การลาแบบไม่จำกัดวันหยุด 

Krung Thai มี Co-working Space สุดโมเดิร์นทั้งการตกแต่งและอุปกรณ์ล้ำสมัย เงินกู้ยืมบ้านและรถดอกเบี้ยพิเศษ

Workpoint  มีผลตอบแทนเป็นหุ้นบริษัท ทำให้พนักงานรู้สึกเป็นส่วนร่วมและอยากเติบโตไปกับองค์กร

Unicharm ไฮไลท์คือการมี Scrum Dinner  สนับสนุนค่าใช้จ่ายให้พนักงานพาทีมไปสังสรรค์ได้เดือนละ 1 ครั้ง เพื่อกระชับความสัมพันธ์และให้เปิดอกคุยกันมากขึ้น ใครที่ชอบสไตล์การทำงานแบบญี่ปุ่นต้องไม่พลาดที่นี่ 

IKEA  จัดการ์ดวันเกิดให้พนักงาน พร้อมส่วนลด 15% ให้พนักงานที่กำลังตกแต่งบ้านด้วย และอีกสวัสดิการที่น่าสนใจคือ  ทำงาน 12 เดือน แต่ได้เงินเดือน 13 เดือนไปเลย

LINE MAN Wongnai ให้การทำงานแบบชั่วโมงยืดหยุ่น มีโครงการ Weflex เบิกค่าใช้จ่ายไปทำกิจกรรมตามไลฟ์สไตล์ 30,000 บาท/ปี มีโบนัสรายสัปดาห์ มีอาหารกลางวันฟรีทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์, มี กาแฟจาก Barista ฟรีทุกวัน, มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ดื่มฟรีหลัง 5 โมงเย็น, สามารถทำงานที่บ้านได้, ให้คอมพิวเตอร์ MacBook สำหรับพนักงานทุกคน

ศรีจันทร์สหโอสถ  ที่โดดเด่นมากๆคือ เพิ่มวันลาคลอดบุตรเป็น 180 วัน (ได้รับค่าจ้าง), พนักงานที่เป็นคุณพ่อสามารถลาเนื่องจากภรรยาคลอดบุตร/ตั้งครรภ์ ได้ 30 วัน, ลาผ่าตัดแปลงเพศ ไม่เกิน 30 วันต่อปี, ลาพักใจ กรณีสูญเสียคนใกล้ชิด 10 วัน, ซื้อหนังสือฟรีเดือนละ 1 เล่ม, รับผลิตภัณฑ์ของบริษัทฟรีทุกเดือน, ฟิตเนสฟรี, กิจกรรม Tuesday Donut กิจกรรมพักเบรกจิบชาและทานขนมยามบ่าย ถือเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนจะได้พักเบรกจากการทำงาน, ค่าแนะนำเพื่อนสมัครงานสูงสุด 15,000 บาท, วันหยุดพิเศษในเดือนเกิด 

สวัสดิการบริษัทต่างๆ ต้องบอกว่าว้าวมากๆ จุดที่น่าสังเกตคือ หลายๆบริษัทนำเรื่อง Work Life Balance และ การทำงานแบบยืดหยุ่น เข้ามาเป็นสวัสดิการเพิ่มมากขึ้นเพื่อดึงดูคนเก่งและคนรุ่นใหม่ ซึ่งสามารถตอบโจทย์ได้อย่างดี  จากข้อมูลสวัสดิการที่องค์กรต่างๆ นำมาดึงดูคนรุ่นใหม่  เราหวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์และเป็นแนวทางสำหรับองค์กรที่จะนำไปประยุกต์ใช้ในการบริหารพนักงาน เป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้นขององค์กร ตลอดจนเป็นการแสดงถึงความใส่ใจที่องค์กรมีต่อพนักงาน โดยเฉพาะในยุคที่เรื่องสวัสดิการของพนักงานมีผลต่อการตัดสินใจเข้าทำงานมากขึ้น ดังนั้นสวัสดิการจึงเป็นเรื่องที่ฝ่ายHR และผู้บริหาร ต้องหันมาให้ความสำคัญไม่แพ้เรื่องอื่น ๆ ต้องเรียนรู้เทรนด์สวัสดิการ ผลประโยชน์ที่เป็นความสนใจของคนรุ่นใหม่ด้วย เพราะหากองค์กรสามารถจัดสรรสวัสดิการแปลกใหม่ตามความเหมาะสมให้กับพนักงานได้ ก็จะช่วยดึงดูดให้คนอยากมาร่วมงาน และมีส่วนช่วยในการรักษาพนักงานไว้กับองค์กรได้เช่นกัน

Source : https://www.workventure.com/top50-companies-2024

 

สนใจหางาน อยากทำงานบริษัทญี่ปุ่น มาลงทะเบียนสมัครงานกับเพอร์ซันแนลฯ   ฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่าย
ต้องการฝากประวัติ https://www.personnelconsultant.co.th/jobseeker/register_jobseeker/
ส่งเรซูเม่ (ภาษาอังกฤษ) jobs@personnelconsultant.co.th

#benefits #benefittrend #socialmedia #สวัสดิการ #คนหางานรุ่นใหม่ #หางาน #สมัครงาน #หางานบริษัทญี่ปุ่น #ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
#จัดหางานเพอร์ซันแนลคอนซัลแตนท์ #personnelconsultant