หากนึกถึงประเทศญี่ปุ่น บางท่านก็จะนึกถึงภูเขาไฟฟูจิ บ้างก็นึกถึงซากุระ แต่หลายท่านอาจจะนึกถึงรถไฟชินคันเซ็น วันนี้เราจะพาทุกท่านมารู้จักกับรถไฟชินคันเซ็นให้มากขึ้น  ชินคันเซ็น (Shinkansen) [新幹線]  แปลตรงตัวคือ  “เส้นทางไกลสายใหม่”  เป็นรถไฟความเร็วสูงของประเทศญี่ปุ่นมีประวัติยาวนานกว่า 50 ปีแล้ว  เปิดตัวครั้งแรกด้วยเส้นทางโตเกียว – โอซาก้า (สาย Tokaido shinkansen) เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1964 ซึ่งเป็นปีที่มีการแข่งขันโอลิมปิกที่โตเกียว จากนั้นเส้นทางรถไฟ Shinkansen ก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนปัจจุบันเชื่อมหัวเมืองใหญ่ของญี่ปุ่นเกือบทุกเมือง ทำให้สะดวกในการเดินทางได้ทั่วประเทศ ระยะทางรวมกว่า 2,951.3 กม. และวิ่งด้วยความเร็ว 240–320 กม./ชั่วโมง   นอกจากนี้ ด้วยรูปร่างของรถไฟชินคันเซ็นมีลักษณะหัวแบบกระสุน จึงมีอีกชื่อว่า “รถไฟหัวกระสุน” (Bullet Train)  ปัจจุบัน หากเดินทางจากโตเกียวไปโอซาก้า ใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น

รถไฟ Shinkansen มีกี่สาย

รถไฟชินกันเซ็น ดำเนินการโดยบริษัท JR ที่เป็นบริษัทให้บริการรถไฟและมีเครือข่ายทั่วญี่ปุ่น แบ่งเป็นบริษัท ตามแต่ละภูมิภาคเพื่อให้บริการอย่างทั่วถึง ดังนั้น ชินคันเซ็นจึงไม่ได้มีแค่สายเดียว ปัจจุบันมีทั้งหมด 10 สาย

1.Hokkaido Shinkansen  [北海道新幹線] เป็นเส้นทางที่เชื่อมระหว่างเกาะฮอนชู และเกาะฮอกไกโดโดยลอดผ่านอุโมงค์เซคัง (Seikan Tunnel) เปิดให้บริการเมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 2016  ขบวนรถไฟที่ให้บริการ คือขบวน Hayabusa และ Hayate  โดยรถไฟทั้ง 2 ขบวนนี้จะเป็นที่นั่งแบบต้องสำรองที่นั่งเท่านั้น (Reserve seat only)

2.Tohoku Shinkansen [東北新幹線] เป็นเส้นทางที่เชื่อมระหว่าง Tokyo  กับภูมิภาค Tohoku เส้นทางนี้จะมีแยกเป็น 2 สาย ได้แก่ สาย Akita ไปจังหวัดอาคิตะ และ สาย Yamagata  ไปจังหวัดยามากาตะ  ซึ่งเส้นทางนี้มีรถไฟให้บริการ 6 ขบวนได้แก่ Hayabusa , Hayate , Yamabiko , Nasuno , Komachi  และ Tsubasa  โดยขบวน Hayabusa ที่โดดเด่นด้วยสีเขียวสด เป็นขบวนรถไฟวิ่งเร็วที่สุดในญี่ปุ่น โดยมีความเร็วสูงสุด  320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเมื่อปี ค.ศ. 2016 ได้เชื่อมกับเส้นทาง Hokkaido Shinkansen  ไปจนถึงสถานี Shin-Hakodate Hokuto 

3.Akita Shinkansen [秋田新幹線] เส้นทางที่แยกมาจากสายโทโฮคุชินคันเซ็น เชื่อมระหว่างสถานี Morioka ในจังหวัดอิวาเตะและสถานี Akita ในจังหวัดอาคิตะ  ขบวนรถไฟมีชื่อว่า Komachi ซึ่งมีเอกลักษณ์คือสีแดง และพ่วงมากับขบวน Hayabusa วิ่งมาด้วยกันก่อนจะแยกกันที่สถานี Morioka ขบวน Komachi วิ่งได้ความเร็วสูงสุดที่ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เนื่องจากข้อจำกัดของทางรถไฟจึงถือเป็นมินิชินคันเซ็น  นอกจากนี้ ขบวน Komachi  ยังมีความกว้างน้อยกว่าขบวนอื่นๆ สังเกตง่ายๆ จะมีทางเชื่อมระหว่างชานชลากับประตูรถเพื่อความสะดวกในการขึ้นลงค่ะ

 

4.Yamagata Shinkansen  [山形新幹線] เป็นอีกเส้นทางที่แยกมาจากสายโทโฮคุชินคันเซ็น เชื่อมระหว่างสถานี Fukushima ในจังหวัดฟุคุชิมะ และสถานี Shinjo ในจังหวัดยามากาตะ  เส้นทาง Yamagata shinkansen  มีรถไฟขบวน Tsubasa พ่วงมากับขบวน Yamabiko แล้วมาแยกที่สถานี Fukushima เพื่อมายังสถานี Yamagata แล้วไปสุดสายที่สถานี Shinjo ซึ่งขบวน Tsubasa สามารถวิ่งในเส้นทางนี้ด้วยความเร็ว 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงเรียกเป็นมินิชินคันเซ็นเช่นกัน

5.Joetsu Shinkansen  [上越新幹線] เป็นเส้นทางที่เชื่อมระหว่างโตเกียว และจังหวัดนีงาตะ ซึ่งในช่วงฤดูหนาวจะวิ่งไปถึงสถานี Gala Yuzawa ซึ่งเป็นลานสกียอดนิยม ในเส้นทางนี้มีรถไฟชินคันเซ็นขบวน Toki , Tanigawa 

*รู้หรือไม่ สายโจเอ็ตสึชินคันเซ็น เคยมีขบวน Max Toki & Max Tanigawa เป็นรถไฟสองชั้น ปัจจุบันยกเลิกการให้บริการแล้วตั้งแต่ปี 2021 ใครทันขบวนนี้กันบ้างค่ะ

6.Hokuriku Shinkansen  [北陸新幹線] ให้บริการครั้งแรกในปี 1997 สำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่นากาโนะ เป็นเส้นทางที่เชื่อมระหว่างโตเกียวและเมืองคานาซาว่า ในจังหวัด Ishikawa และล่าสุดเมื่อมีนาคม ค.ศ. 2024 ได้ขยายเส้นทางมาจนถึงเมืองสึรุกะ (Tsuruga) ในจังหวัดFukui  เส้นทางนี้มีขบวนรถไฟขบวน  Kagayaki , Azama , Hakutaka และ Tsurugi  ซึ่งขบวน Kagayaki วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 260 กิโลเมตร/ชั่วโมงและเป็นขบวนที่ต้องจองที่นั่งเท่านั้น (Reserve seat only)

7.Tokaido Shinkansen  [東海道新幹線] ถือเป็นเส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายแรกของญี่ปุ่น ซึ่งเปิดให้บริการในปี 1964 สำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ญี่ปุ่น  เชื่อมต่อเมืองใหญ่ของ 3 ภูมิภาค ระหว่างสถานี Tokyo ในจังหวัดโตเกียว และ สถานี Nagoya ในจังหวัดไอจิ และ สถานี Shin-Osaka ในจังหวัดโอซาก้า  นอกจากนี้ยังวิ่งผ่านภูเขาไฟฟูจิในช่วงจังหวัดชิสึโอกะ (Shizuoka) ในเส้นทางนี้มีรถไฟขบวน Nozomi ที่วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 285 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รองลงมาก็เป็นขบวน Hikari และ Kodama ตามลำดับ ซึ่งจะจอดหลายสถานีมากกว่า นอกจากนี้ขบวน Nozomi ยังวิ่งยาวไปยังสถานี Hakata ในจังหวัดฟุกุโอกะ อีกด้วย

*รู้หรือไม่ หากต้องการเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิสวยๆ  จากโตเกียวให้จองที่ นั่งริมหน้าต่างฝั่งขวา แต่หากมาจากโอซาก้าก็นั่งที่นั่งฝั่งซ้ายค่ะ รับรองไม่พลาดกับวิวภูเขาไฟฟูจิสวยๆ แน่นอน

8.Sanyo Shinkansen  [山陽新幹線]  เชื่อมต่อระหว่างเมืองโอซาก้ากับฟุกุโอกะบนเกาะคิวชู เริ่มตั้งแต่สถานี Shin-Osaka ในจังหวัดโอซาก้า ผ่านสถานี Hiroshima ในจังหวัดฮิโรชิม่า และข้ามไปยังสถานี Hakata ในจังหวัดฟุกุโอกะ  สร้างเสร็จในปี 1975 และเป็นรถไฟชินคันเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดเป็นอันดับสองของญี่ปุ่น  ขบวนรถไฟที่ให้บริการ ได้แก่ขบวน Nozomi, Hikari , Kodama , Mizuho และ Sakura  โดยขบวน Nozomi จะสามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด  300 กม./ชม. 

9.Kyushu Shinkansen  [九州新幹線] เป็นเส้นทางที่เชื่อมระหว่างสถานี Hakata ในจังหวัด Fukuoka ที่อยู่ทางตอนเหนือ และสถานี Kagoshima-Chuo ในจังหวัด Kagoshima ที่อยู่ทางตอนใต้ของเกาะคิวชู  เส้นทางนี้ใช้ขบวนรถไฟ Mizuho วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 260 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และจะจอดเพียงสถานีหลักเท่านั้น  รองลงมาคือขบวน Sakura และ Tsubame ตามลำดับ ซึ่งจะจอดหลายสถานีมากกว่า

10.Nishi Kyushu Shinkansen  [西九州新幹線] เป็นเส้นทางที่เชื่อมระหว่างสถานี Takeo-Onsen ในจังหวัด Saga และ สถานี Nagasaki ในจังหวัด Nagasaki ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะคิวชู โดยเปิดให้บริการเมื่อเดือนกันยายน ค.ศ. 2022 มีขบวนรถไฟ Kamome คอยให้บริการ วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 260 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

 

สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการต่างๆ บนรถไฟชินกันเซน

ชินคันเซ็นถือเป็นรถไฟที่มีความสะดวกสบายมากๆ เหมาะกับการเดินทางไกลๆหรือข้ามจังหวัด เมื่อเทียบกับราคากถือว่าค้มค่า และหากถ้าเรามี JR Pass ยิ่งคุ้มมากๆ แล้วบนขบวนชินคันเซ็นมีอะไรบ้าง มาดูกัน

1.มีบริการรถเข็นขายอาหารและเครื่องดื่ม *เฉพาะบางขบวนเท่านั้น

2.มีช่องเสียบปลั๊กไฟตรงเบาะที่นั่ง สำหรับชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ  เช่น สมาร์ทโฟน แล็ปท็อป ซึ่งสะดวกสบายมากๆ สามารถนั่งทำงานได้หรือใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าได้ยาวๆเลยค่ะ ถ้าสังเกตจะเห็นเหล่าซาลารี่แมนขึ้นซินกันเซนเยอะมากแล้วก็เปิดแล็ปท็อปทำงานกันค่ะ

3.มีห้องน้ำ พร้อมสิ่งอำนวนความสะดวก เอื้อเฟื้อแก่ผู้พิการและผู้สูงอายุ ห้องน้ำและที่ทิ้งขยะบนขบวนรถไฟ อยากบอกว่าห้องน้ำบนรถไฟชินกันเซ็นนั้นคือดีงามมาก ภายในกว้างมาก มีทุกอย่างครบครัน สะอาดสุดๆ รวมทั้งมีห้องสูบบุรี่ในบางขบวน

3.บริการ Wi-Fi ฟรี สามารถใช้บริการ “Shinkansen Free Wi-Fi” เพียงลงทะเบียนอีเมล **เงื่อนไขตามข้อกำหนด

4.ช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะ ไม่ต้องกังวลเรื่องกระเป๋าหรือสัมภาระ สามารถเก็บด้านบนได้เลย *แต่อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหากสัมภาระมีขนาดเกินกำหนดสำหรับบางขบวน เช่น ขบวนโทไกโด

5.เบาะที่นั่งปรับเอนได้  เบาะที่นั่ง มีขนาดกว้าง สะดวกสบาย 

6.ชั้น Green car คุณจะได้รับบริการแบบชั้น1 กันเลยค่ะแต่แลกมากับราคาที่สูงมาก

 

นั่งรถไฟญี่ปุ่นห้ามพลาด เอกิเบน (Ekiben) หรือข้าวกล่องรถไฟญี่ปุ่น

Ekiben คือ เบนโตะสำหรับรับประทานบนรถไฟโดยเฉพาะ  มาจากคำว่า เอกิ (駅) แปลว่าสถานีรถไฟ และ คำว่า เบน มาจากเบนโตะ (弁当) แปลว่าข้าวกล่อง  ซึ่งเอกิเบนเริ่มวางขายครั้งแรกที่สถานี Utsunomiya จังหวัดโทจิกิ  Ekiben จะมีจำหน่ายทั้งบนขบวนรถไฟหรือตามสถานีรถไฟ ภายในกล่องก็จะมีอาหาร มีช้อนหรือตะเกียบแถมมาให้เพื่อความสะดวกในการรับประทาน บางสถานีก็จะจำหน่ายอาหารที่ทำมาจากวัตถุดิบท้องถิ่นของจังหวัดนั้นๆ อีกด้วย  รถไฟญี่ปุ่นไม่ได้ห้ามทานอาหารบนขบวนรถไฟ ชาวญี่ปุ่นจึงมักซื้อเอกิเบนจากสถานีรถไฟไปทานเวลาต้องเดินทางด้วยรถไฟที่ใช้เวลานาน นับเป็นเสน่ห์ของญี่ปุ่นอย่างหนึ่งของการเดินทางด้วยรถไฟ หากมีโอกาสไปเที่ยวญีปุ่่นและเดินทางด้วยรถไฟอย่าลืมซื้อเอกิเบนไปทานระหว่างทางกันนะคะ 

สนใจหางาน อยากทำงานบริษัทญี่ปุ่น มาลงทะเบียนสมัครงานกับเพอร์ซันแนลฯ   ฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่าย
ต้องการฝากประวัติ https://www.personnelconsultant.co.th/jobseeker/register_jobseeker/
ส่งเรซูเม่ (ภาษาอังกฤษ) jobs@personnelconsultant.co.th

#เที่ยวญี่ปุ่น #shinkansen #หางาน #สมัครงาน #หางานบริษัทญี่ปุ่น #ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
#จัดหางานเพอร์ซันแนลคอนซัลแตนท์ #personnelconsultant