ชาวต่างชาติที่ไปทำงานที่ญี่ปุ่น หาที่พักยังไงดี?

 

ชาวต่างชาติที่ไปทำงานที่ญี่ปุ่น หาที่พักยังไงดี?

        การต้องจากถิ่นฐานบ้านเกิดเพื่อไปทำงานที่ต่างแดน สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเป็นลำดับแรกๆ ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องที่พักที่เราต้องฝากตัวอาศัยอยู่อย่างแน่นอน ตั้งแต่การเลือกสรรที่พักที่เดินทางสะดวก เหมาะสมกับการใช้ชีวิตประจำวันของเรา ไปจนถึงขั้นตอนต่างๆ กว่าจะได้ที่พักในฝันของเรามาครอบครอง หากไม่เคยใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่นในระยะยาวมาก่อน คงเป็นเรื่องยากและค่อนข้างทำให้ท้อแท้ใจน่าดูเลยใช่ไหมคะ

        แต่ไม่เป็นไรอย่าเพิ่งเครียด! วันนี้เพอร์ซันแนลขอแวะมาแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับการหาที่พักในประเทศญี่ปุ่นสำหรับชาวต่างชาติ จัดให้แบบครบจบในบทความเดียวกันไปเลย!

หาเอเจนซี่มืออาชีพ ช่วยประหยัดเวลาและลด error ในขั้นตอน

ข้อดีของการใช้เอเจนซี่ช่วยหาที่พัก
       – มีตัวเลือกที่พักเยอะ หลากหลายพื้นที่ และได้รับการสกรีนนิ่งจากเอเจนซี่แล้วว่าเชื่อถือได้ และมีมาตรฐาน
       – มีผู้ช่วยดำเนินการเอกสารต่างๆ ตามขั้นตอน ลดความผิดพลาดที่อาจจะทำให้เสียเวลาและเสียค่าใช้จ่ายเกินควร
       – หากเกิดปัญหาระหว่างการอยู่อาศัย สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาจากเอเจนซี่คนไทยได้

        แน่นอนว่าต้องมีการจ่ายค่าบริการเพิ่มเติมเล็กน้อย แต่หากเทียบกับความสะดวกสบายและความอุ่นใจที่จะได้รับ รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอนค่ะ

        ตัวอย่างเอเจนซี่ช่วยหาที่พักที่ค่าบริการถูกและดีเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย เพอร์ซันแนลขออนุญาตแนะนำ  LandHousing Thailand หาที่พักแบบ Made to order ถูกและดี ดำเนินการโดยพี่ๆ พนักงานมืออาชีพ ท่านใดสนใจสามารถติดต่อขอคำปรึกษาได้เลยค่ะ  Official Website: https://th-lh.com/

 

 

 

 

 

 

 

แต่เดี๋ยวก่อน! หาที่พักแบบใด ไม่มีสัญญาจ้างงาน
สำหรับท่านที่สนใจหางานประเทศญี่ปุ่น ฝากประวัติหางานฟรีที่ THAI NIPON FELLOWSHIP RECRUITMENT ได้แล้ววันนี้
        – บริษัทจัดหางานประเทศญี่ปุ่น เครือเพอร์ซันแนล คอนซัลแตนท์
        – แนะนำตำแหน่งงาน ฟรี!
        – ช่วยดำเนินการเอกสาร ฟรี!
        – ค่าตั๋วเครื่องบิน ฟรี! (นายจ้างออกให้ 100%)

 ติดตามตำแหน่งงานใหม่ๆ ได้ที่ Facebook Page: https://www.facebook.com/TNFRTHAILAND

 

 

 

1) ประเภทที่พักญี่ปุ่น
     ชาวต่างชาติที่ทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น ส่วนใหญ่เลือกที่พัก 3 ประเภทดังนี้
     1.1  ห้องเช่าทั่วไป มักจะเป็นห้องเปล่า ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ สัญญาขั้นต่ำอยู่ที่ 2 ปีขึ้นไป
     1.2 ห้อง Share House มีเฟอร์นิเจอร์ให้ ส่วนใหญ่เป็นห้องน้ำรวม สัญญาขั้นต่ำอยู่ที่ 1 เดือนขึ้นไป ค่าเช่าถูกที่สุด 
     1.3 แมนชั่นรายเดือน คล้ายๆ กับโรงแรมหรืออพาร์ทเม้นท์ ทำสัญญาได้ตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป ค่าเช่าแพงที่สุด
2) ขั้นตอนการจองที่พัก
ฝ่ายที่เกี่ยวข้องในขั้นตอนการจองที่พัก โดยทั่วไปมีดังนี้
       – ผู้เช่า
       – นายหน้าฝั่งผู้เช่า
       – เจ้าของห้อง
       – นายหน้าฝั่งเจ้าของห้อง
       – ผู้ค้ำประกัน/บริษัทค้ำประกัน*
       Note: *ชาวต่างชาติเช่าที่พักที่ประเทศญี่ปุ่น ต้องมีผู้ค้ำประกันทุกกรณี อาจเป็นคนรู้จักชาวญี่ปุ่น หรือใช้บริการค้ำประกันจากบริษัทค้ำประกันก็ได้

2.1) แนะนำห้อง
         ขั้นตอนแรก เริ่มจากการหาที่พักที่ตรงตามความต้องการของเรา (โลเคชั่น, ประเภทห้อง, ขนาดห้อง, สิ่งอำนวยความสะดวก, ราคา, อื่นๆ)
       Note: ก่อนตัดสินใจเลือกห้อง ต้องมีการไปชมห้องด้วยตนเองทุกครั้ง หรือหากมีบริการชมที่พักแบบออนไลน์ ก็สามารถทดแทนได้

2.2) ยื่นจอง
         หลังจากเลือกห้องที่ตรงใจแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการยื่นเอกสารจองห้อง สามารถยื่นได้ด้วยตนเองหรือเอเจนซี่ช่วยดำเนินการยื่นให้ก็ได้ โดยในขั้นตอนนี้จะมีขั้นตอนย่อยอีก 2 ขั้นตอนได้แก่
         2.2.1 ทางเจ้าของที่พักตรวจสอบผู้เช่าว่าสามารถให้เข้าพักได้หรือไม่ (ความถูกต้องของข้อมูลที่ยื่นจองห้อง สอบถามรายได้ต่างๆ) กรณีใช้บริการบริษัทค้ำประกัน บริษัทค้ำประกันจะพิจารณาคุณสมบัติผู้เช่าในขั้นตอนนี้ด้วย (อาจจะมีโทรมาเช็คกับผู้เช่าโดยตรงเป็นภาษาญี่ปุ่น)
         2.2.2 กำหนดวันที่ต้องการเริ่มสัญญา
         Note: ในการตรวจสอบผู้เช่า จะมีการพิจารณาทักษะภาษาญี่ปุ่นเบื้องต้นของผู้เช่าด้วย (เน้นการสนทนา) ดังนั้นทักษะภาษาญี่ปุ่นจึงมีผลต่อการเลือกที่พัก เพราะบริษัทค้ำประกันของแต่ละที่พักมีความเข้มงวดเรื่องทดสอบภาษาไม่เท่ากัน ควรสอบถามให้แน่ใจทุกครั้งว่ามีความเข้มงวดมากน้อยเพียงใด

2.3) ชำระเงิน
          สำหรับผู้เช่าใหม่ ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายดังนี้ (อาจมีรายการอื่นเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับที่พักแต่ละที่)
         2.3.1) ค่าแรกเข้า **ค่าแรกเข้าอาจอยู่ที่ประมาณ 3-5 เท่าของค่าเช่า** ประกอบไปด้วย
            – ค่าเช่า
            – ค่าส่วนกลาง
            – ค่ามัดจำ (1-2 เดือน)
            – ค่าขอบคุณเจ้าของห้อง (ราวๆ ค่าเช่า 1-2 เดือน ให้เปล่า ไม่มีการคืนเงิน)
            – ค่าแรกเข้าของบริษัทค้ำประกัน (อาจจะมีค่ารายเดือนของการค้ำประกันด้วย)
            – ค่าทำความสะอาด
            – ค่าประกันอัคคีภัย
            – ค่าบริการของเอเจนซี่
            – ค่าบริการซัพพอร์ตระหว่างเข้าอยู่ (ถ้ามี)

2.4) ย้ายเข้าอยู่
            หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนทั้งหมดแล้ว เราก็แพ็คกระเป่าให้พร้อม และย้ายเข้าอยู่ได้เลยค่ะ

Tips เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเช่าที่พักในญี่ปุ่น
          – ยิ่งราคาห้องสูง เกณฑ์การพิจารณาให้เช่าอาจจะยิ่งเข้มงวด
          – ควรดำเนินการหาที่พักก่อนบินไปญี่ปุ่นล่วงหน้า 1-1.5 เดือน (ยังไม่เผื่อกรณีมีข้อผิดพลาดในขั้นตอน)
          – ไม่ควรไปเข้าที่พักช้าเกินไปนับตั้งแต่วันที่ผ่านพิจารณา ควรตกลงกับเจ้าของที่พักให้ดีว่าเขาสะดวกให้เราย้ายเข้าช่วงไหน